(Center : 094-66-99-699 )
EN
TH
HOME
PRODUCTS
ABOUT US
ORDER AND PAYMENT
CONTENT
REVIEW
contact us
praisawan
More
0
(Center : 094-66-99-699 )
HOME
PRODUCTS
ABOUT US
ORDER AND PAYMENT
CONTENT
REVIEW
contact us
praisawan
More
EN
TH
0
Home
All contents
Article
กินอย่างไรให้
กินอย่างไรให้
Last updated: 2014-06-09
|
4188 Views
|
สิ่งที่ควรเลือกรับประทานเป็นอย่างแรก ๆ ในทุก ๆ มื้ออาหาร
ผลไม้
มีงานวิจัยที่แนะนำว่าให้กินผลไม้อย่างน้อย 5 ส่วนในแต่ละวัน เพราะมีคุณประโยชน์ในการช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็งบางประเภทได้ แต่ต้องเป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัดไม่มีแป้งหรือน้ำตาลมาก เพราะจะทำให้อ้วนและได้รับน้ำตาลเกินความต้องการของร่างกายได้
กรด
ไขมันที่จำเป็นสำหรับร่างกาย (Essential fattyacids)
หรือที่รู้จักกันว่าเป็นไขมันส่วนที่ดี จะเข้าไปช่วยทำให้ผิว ผม และเล็บดูแข็งแรง
ควรเลือกดื่ม
ชาเขียว
ด้วยเหตุผลเดียวกับกระเทียมคือมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ป้องกันมะเร็งบางชนิด ทั้งยังเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย
อย่าลืม
ดื่มนม
เพราะเป็นแหล่งแคลเซียมและวิตามินดี เป็นประโยชน์ต่อกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกผุ
ถั่วเหลือง
ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันมะเร็ง พร้อมทั้งมีวิตามินอี และกรดอะมิโน ที่ช่วยให้ผิวเรียบลื่น ยืดหยุ่นด้วย
วิตามินซี
จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันและช่วยให้ร่างกายต่อสู้โรคภัยได้ วิตามินซียังเป็นกุญแจสำคัญให้ร่างกายสร้าง คอลลาเจน อันเป็นสารเคมีที่ทำให้ผิวหนังยืดหยุ่นและปราศจากรอยย่นอีกต่างหาก
ช็อกโกแลต
เป็นหนึ่งในอาหารที่จะช่วยให้คงความงามไว้ได้ เพราะว่าในช็อกโกแลตมีสารที่กระตุ้นเอนโดร์ฟิน และเซโรโทนิน ฮอร์โมนทั้ง 2 ทำให้มีอารมณ์ดี มีความสุข คนจะแลดูสวยได้ก็ต้องรู้สึกสวย รู้สึกดีเสียก่อน
ดื่มน้ำ
เพราะน้ำจะช่วยให้แลดูอ่อนเยาว์ ผมเปล่งประกาย นุ่มสลวย น้ำยังช่วยขับของเสียและสารพิษออกจากร่างกายอีกด้วย
อโวคาโด
เจ้าผลไม้มหัศจรรย์นี้ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระสนับสนุนการผลิตเส้นใยคอลลาเจนของผิวหนังให้เรามีผิวสวยใส ปริมาณที่เหมาะสมคือบริโภคให้ได้สัปดาห์ละครั้ง หากชอบหวานก็เติมน้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย และจำไว้ว่าอโวคาโดอุดมไปด้วยน้ำมันธรรมชาติที่มีประโยชน์ยิ่ง
แครอท
พืชชนิดนี้อุดมด้วยวิตามินเอช่วยบำรุงสายตาและผิวหนัง เคล็ดลับคือให้เลือกซื้อแต่แครอทปลอดสารพิษและควรปอกเปลือกก่อนบริโภคเพื่อความมั่นใจ เพราะแครอทเป็นพืชที่ชาวไร่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงปริมาณมากในการเพาะปลูก
วิตามินจำเป็นต่าง
ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าวันหนึ่ง ๆ ร่างกายเราได้รับวิตามินอย่างพอเพียง อาหารที่มีขั้นตอนการปรุงซับซ้อนหรือวิธีการเก็บรักษาทำให้สูญเสียคุณค่าธรรมชาติของอาหารไป ส้มตามซูเปอร์มาร์เก็ตเดี๋ยวนี้มีวิตามินซีเหลือเพียง 60% เพราะสูญหายไปในขั้นตอนการเก็บเกี่ยว ดังนั้น ควรบริโภควิตามินเสริมให้ร่างกายได้สารอาหารเพียงพอ
แอปเปิ้ล
วันละผล ผลไม้นี้อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น เพคติน วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ช่วยขจัดมลพิษ ลดคอเลสเตอรอลและยังช่วยระบบการทำงานของปอดด้วย
พืชเรียกน้ำตา หอมและกระเทียม
ช่วยฟื้นฟูระบบการไหลเวียนของโลหิต ช่วยล้างพิษได้ดีที่สุด ป้องกันโรคหอบหืด
อย่าลืม
โยเกิร์ต
อาหารสูตรสุขภาพตั้งแต่โบราณ ในโยเกิร์ตมีแบคทีเรียสองชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อระบบการย่อย คือ แลคโตบาซิลัส และเอซิโดฟิลลัส ช่วยฟื้นฟูการทำงานของลำไส้ ลดการสะสมของแก๊สในกระเพาะทำให้ท้องไม่อืดและร่างกายดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น
มันฝรั่ง
หากต้องการอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ วิตามินบี 3 วิตามินซีและโปแตสเซียมล่ะก็ มันฝรั่งมีให้ครบทุกอย่าง วิธีดีที่สุดของการบริโภคก็คือการอบและบริโภคทั้งเปลือกจะได้โภชนาการที่ดีกว่า และหากต้องการเนยกับซาวครีมช่วยให้รสชาติดีขึ้นสักเล็กน้อยก็ไม่ผิดกติกา
ไฟเบอร์
มีประโยชน์และช่วยระบบย่อยอย่างมาก ช่วยให้อิ่มเร็วและไม่บริโภคอาหารอื่น ๆ เข้าไปมากเกินความจำเป็น ไฟเบอร์ช่วยชะลอความชรา ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและลดปริมาณแอสโตรเจนในกระแสเลือดซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดมะเร็ง แหล่งไฟเบอร์ที่ดีคือผักและผลไม้สด ธัญพืช มันฝรั่งและขนมปังโฮลวีท แต่ก็ไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะจะทำให้ท้องอืดและมีผลต่อระบบลำไส้ ควรเริ่มบริโภคน้อย ๆ และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นจะเหมาะกว่า
ผักสดต่าง ๆ
ดีต่อเส้นผม ผิวหนัง นัยน์ตาและระบบอื่น ๆ ของร่างกาย ควรพยายามบริโภคผักสด ๆ ให้มาก โดยเฉพาะผักใบเขียวเข้มและผักสีสดต่าง ๆ สี หากต้องการพัฒนาความจำควรบริโภคกะหล่ำปลีต้มทุกมื้อกลางวันและเย็นจะช่วยได้ดี
น้ำผลไม้
ช่วยผิวสวย การดื่มน้ำผลไม้ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารดี ๆ ได้เร็วที่สุด เพิ่มความสดชื่นในฉับพลัน น้ำผลไม้ผสมที่ดีที่สุดก็คือน้ำแอปเปิ้ล แครอทและบีทรูท ทั้ง 3 ชนิดนี้ผสมกันอย่างละ 1 ส่วน แต่ก็ควรระลึกไว้ว่า น้ำผลไม้ไม่มีไฟเบอร์มากเท่ากับการบริโภคผักผลไม้สด ๆ ดังนั้น ก็ควรบริโภคผักผลไม้สดวันละจานเป็นอย่างน้อย
ปลา
เพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะปลาที่อุดมด้วยไขมันโอเมก้า 3 เช่น แซลมอล แมคเคอเรลและทูน่า ทั้งหมดนี้มีไขมันช่วยระบบการทำงานของเซลล์ผิวหนัง ลดความดันโลหิต การบริโภคปลาสัปดาห์ละครั้งจะลดความเสี่ยงโรคหัวใจลงได้ถึง 50% แคลเซียมจากปลายังมีประโยชน์ต่อผิวหนัง กระดูกและฟันอีกด้วย
อย่าลืม
ถั่วต่าง ๆ
ถั่วอุดมด้วยสารอาหารมีประโยชน์เช่นเดียวกับผักและผลไม้สด เป็นของขบเคี้ยวยามว่างที่อุดมด้วยโปรตีน วิตามินบี 1 และแมกนีเซียม ซึ่งมีผลดีต่อระบบประสาท หากไม่ชอบถั่วก็เปลี่ยนเป็นเนยถั่วหรือนมถั่วเหลืองแทน เลี่ยงจากถั่วอบเกลือซึ่งจะเคี้ยวเพลินจนโซเดียมในร่างกายสูงเกินไป ถั่วที่แนะนำคือฮาเซลนัทที่มีโปรตีนสูงที่สุด บราซิลนัทมีเซเลเนียมสูงช่วยชะลอความชราได้ดี
ไข่
เพื่อสุขภาพ อาหารชนิดนี้อุดมด้วยโปรตีน แคลเซียมเหล็ก สังกะสีและวิตามินบี 3 สิ่งที่ควรระวังก็คือ หากเป็นไข่เก่าอาจมีแบคทีเรียซาลโมเลลาที่เป็นสาเหตุของอาหารเป็นพิษได้ ดังนั้นควรเลือกซื้อไข่ไก่สดใหม่ที่ปลอดสารพิษและไม่ควรบริโภคไข่ดิบ ๆ
เลือก
ไก่
ดีที่สุด ไม่ว่าใครจะบอกว่าอย่างไร ไก่ก็เป็นอาหารที่มีไขมันต่ำที่สุดในเนื้อสัตว์ทั้งหมด และยังมีวิตามินสูงด้วย และยิ่งลอกหนังออกด้วยแล้ว ก็จะปลอดภัยมากขึ้น
บร็อคโคลี่
นอกจากจะช่วยป้องกันมะเร็งแล้ว ยังช่วยทำความสะอาดร่างกาย และอุดมด้วยธาตุเหล็กและสารต้านอนุมูลอิสระ
กินแบบป๊อปอายกันดีกว่า เรียนรู้ที่จะรัก
โอลีฟ ออยล์
หรือ
น้ำมันมะกอก
ซึ่งอุดมด้วยคอเลสเตอรอลชนิดดี ช่วยป้องกันมะเร็งและโรคของหัวใจ พรมน้ำมันนี้ลงในน้ำสลัดเล็กน้อยก่อนบริโภคทุกครั้ง
พริกมีประโยชน์ พริกทุกชนิดอุดมด้วยวิตามินซี โดยเฉพาะพริกแดงและเหลือง มีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 4 เท่า วิธีบริโภคให้ได้ประโยชน์สูงสุดคือกินสด ๆ จะช่วยให้สุขภาพดีของผิวหนัง เหงือกและเส้นผม
กล้วย
ช่วยสุขภาพ ดีที่สุดหากกินตอนสุก กล้วยอุดมด้วยโปแตสเซียมและวิตามินซี ช่วยป้องกันแผลพุพองของผิวหนัง ลดคอเลสเตอรอล และช่วยขจัดพิษจากโลหะที่สะสมค้างอยู่ในร่างกาย เหมาะที่จะเลือกเป็นอาหารเช้า
เรียบเรียงข้อมูลโดย no9thailand
Related content
เปลี่ยนครีม เปลี่ยนหน้า สูตรสำเร็จความกระจ่างใส เห็นผลจริง
Mar 31, 2014
วิธีรักษาสิวอย่างรวดเร็วในชั่วข้ามคืน ด้วยตนเอง
Mar 31, 2014
วิธีทำให้ผิวขาวใส สวยมีเสน่ห์แบบธรรมชาติอย่างแท้จริง
Mar 31, 2014
น้ำมันมะพร้าวช่วยให้ผิวสวยได้อย่างไร ?
Mar 31, 2014
Powered by
MakeWebEasy.com